รีวิว ไดร์เป่าผม Xiaomi 5 รุ่นไหนดี เป่าผมแห้งเร็ว พกพาสะดวก ทันสมัย ราคาดี

Last Updated: 15/02/2024
0.รีวิว ไดร์เป่าผม Xiaomi 5 รุ่นไหนดี เป่าผมแห้งเร็ว พกพาสะดวก ทันสมัย ราคาดี

รีวิว ไดร์เป่าผม Xiaomi อีกหนึ่งทางเลือกของสาวๆที่ช่วยให้การเป่าผมนั้นง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ต้องยกให้กับแบรนด์นี้เลย  มาพร้อมนวัตกรรมที่ทันสมัยด้วยพลังน้ำไอออน ที่จะช่วยลดโอกาสผมแห้งเสีย ชี้ฟูได้มากยิ่งขึ้น Xiaomi Dryer มาด้วยกลไกอัจฉริยะ NTC ที่จะมีการไหลเวียนของอากาศทั้งร้อนและเย็น เป่าผมให้แห้งไวโดยไม่ทำให้เส้นผมเสียหาย แถมยังคงความชุ่มชื้นเงางาม ให้สาวๆมั่นใจตลอดวัน

ประวัติของไดร์เป่าผม Xiaomi

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า Xiaomi เป็นบริษัทที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2553 ที่ยังคงมุ่งมั่นผลิตและพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้มีความทันสมัยตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น มีสินค้าครอบคลุมทุกประเภท โดยเฉพาะอุปกรณ์ Smart Home อย่างไดร์เป่าผมอัจฉริยะ Xiaomi Dryer ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีไอออนลบ 20-50 ล้านประจุใช้แล้วผมไม่แห้งเสียตอบโจทย์ผู้บริโภคเป็นอย่างมาก

คุณสมบัติเด่น Xiaomi Hair Dryer

ไดร์เป่าผม Xiaomi เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผ่านการพัฒนา และออกแบบมาได้ยอดเยี่ยมดีไซน์สวยเก๋ น้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด พกพาไปได้ทุกที่ ให้คุณอุ่นใจได้ทุกทริป Xiaomi Dryer มาพร้อมกับใบพัดเทอร์โบที่ผลิตกระแสลมแรง ช่วยเป่าผมให้แห้งไวมากยิ่งขึ้น ภายใต้เทคโนโลยี NTC ที่คงอุณหภูมิไว้อย่างเสถียร ที่ 57 องศา เพื่อช่วยปกป้องเส้นผมให้สุขภาพดีและเงางามมากยิ่งขึ้น การใช้งานก็ง่ายด้ามจับถนัดมือเพื่อป้องกันรังสี UV ให้สัมผัสที่นุ่มนวล ใช้แล้วติดใจแน่นอน

รีวิว ไดร์เป่าผม Xiaomi 5 แบบ ที่ต้องมีติดบ้าน

1. ไดร์เป่าผม Xiaomi Mi Ionic Hair Dryer รุ่น H300 สีขาว 

เครื่องเป่าผมมาพร้อมกับใบพัดเทอร์โบที่ช่วยผลิตกระแสลมได้อย่างเสถียร อุณหภูมิไม่ทำร้ายเส้นผม สามารถปรับสลับลมร้อน เย็นได้อย่างอิสระควบคุมได้ด้วยตัวเอง ซึ่งอุณหภูมิจะถูกบันทึกไว้โดยอัตโนมัติเพื่อใช้ในครั้งถัดไป

คุณลักษณะ

  • น้ำหนัก 498 กรัม 
  • กำลังไฟ 1600 วัตต์ 
  • ขนาด 135 x 77 x 215 เซนติเมตร  
  • สีขาว
  • ระดับความร้อน 57 องศา
1. ไดร์เป่าผม Xiaomi Mi Ionic Hair Dryer รุ่น H300 สีขาว

ภาพ : Future link

  • ราคา 1,080 บาท

ข้อดี

  • เป่าผมแห้งไวด้วยกระแสลมกว้าง 20 ม./วินาที ใบพัดใหญ่ 7 ใบพัด น้ำหนักเบาสบาย
  • เป็น Xiaomi Hair Dryer ที่เป่าผมด้วยไอออนลบ 50 ล้านประจุ ช่วยดูแลให้ผมเรียบสวย
  • มีบันทึกการตั้งค่าอุณหภูมิอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้ครั้งถัดไป

ข้อเสีย

  • ตัวเครื่อง Xiaomi Hair Dryer เป็นสีขาว อาจทำให้เลอะเทอะเครื่องสำอางได้ง่าย ดูแลรักษาความสะอาดค่อนข้างยาก
  • อุณหภูมิเสถียรคงที่ที่ 57 องศา อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเป่าลมร้อน
  • เหมาะสำหรับ Home Use มากกว่า Professional Use

2. ไดร์เป่าผมไอออน Xiaomi Mijia Negative Ion Hair Dryer รุ่น H501

ด้วยมอเตอร์คุณภาพเยี่ยมจากญี่ปุ่น ที่มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 62 เมตร/วินาที Xiaomi Hair Dryer  มาพร้อมกับเทคโนโลยีอุณหภูมิเสถียร ช่วยดูแลเส้นผมและหนังศีรษะได้ดี เสียงเบามากรุ่นอื่นๆ

คุณลักษณะ

  • น้ำหนัก 345 กรัม 
  • กำลังไฟ 1600 วัตต์ 
  • ขนาด 90 x 69.5 x 246.7 เซนติเมตร  
  • สีขาว สีเทา สีม่วง
  • ระดับความร้อน 57 องศา
2. ไดร์เป่าผมไอออน Xiaomi Mijia Negative Ion Hair Dryer รุ่น H501

ภาพ : SHOWSEE.TH

  • ราคา 1,379 - 1,559 บาท

ข้อดี

  • เป็นเครื่องเป่าผมไอออนลบ 200 ล้านไอออน ช่วยลดผมชี้ฟู ทำให้ผมมีน้ำหนักตั้งแต่คนจรดปลาย
  • มีทั้งหมด 8 โหมด มีความเร็วลม 2 เกียร์ อุณหภูมิลม 4 เกียร์ สามารถปรับสลับได้อย่างอิสระ
  • เป่าผมแห้งไวภายใน 2 นาที ไร้ใบพัด ไม่ทำให้ผมพันเข้ามอเตอร์

ข้อเสีย

  • ด้ามจับพับเก็บไม่ได้ อาจจะทำให้เปลืองพื้นที่ในการพกพาไปใช้นอกสถานที่
  • อุณหภูมิคงที่ 57 องศา ไม่เหมาะสำหรับคนชอบเป่าผมด้วยลมร้อน
  • จดจำโหมดอุณหภูมิลมโดยอัตโนมัติ เหมาะแก่การใช้ส่วนตัวมากกว่า

3. ไดร์เป่าผม แบบพกพา Xiaomi Mijia Negative Ion Hair Dryer รุ่น H101 

ที่มาพร้อมกับลมแรงเป่าแห้งไวช่วยให้สาวๆประหยัดเวลาได้มากยิ่งขึ้น โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับไอออนลบ 50 ล้านต่อลูกบาศก์เซนติเมตร ใช้แล้วผมไม่แห้งเสียไม่ชี้ฟู แถมยังช่วยลดปัญหาผมขาดหลุดร่วงได้ด้วย Xiaomi Hair Dryer เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับคุณภาพเยี่ยม ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้อัจฉริยะ 

คุณลักษณะ

  • น้ำหนัก 428 กรัม
  • กำลังไฟ 1600 วัตต์  
  • ขนาด 160 x 70 x 212 เซนติเมตร  
  • สีขาวและสีชมพู 
  • ระดับความร้อน 57 องศา
3. ไดร์เป่าผม แบบพกพา Xiaomi Mijia Negative Ion Hair Dryer รุ่น H101

ภาพ : SHOWSEE.TH

  • ราคา 478 บาท

ข้อดี

  • เป็นไดร์เป่าผมที่ขนาดกะทัดรัด โดยมีขนาดเครื่องสั้นพิเศษประมาณ 9 เซนติเมตรเท่านั้น เหมาะแก่การพกพาเป็นอย่างมาก
  • มาพร้อมกับนวัตกรรมที่ทันสมัย ด้วยแรงลมไอออนลบ 50 ล้านต่อลูกบาศก์เซนติเมตร แห้งไวแถมยังคงความชุ่มชื้นไม่ทำให้ผมแห้งเสียชี้ฟูอีกด้วย
  • ควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบอัจฉริยะ ความเร็วลมสูงเป่าแล้วแห้งไวไม่เสียเวลา

ข้อเสีย

  • ออกแบบมาในโทนสีอ่อน ดูแลความสะอาดได้ยาก
  • มาในระบบ 6 ใบพัด อาจมีปัญหาผมเข้าไปพันในใบพัดได้
  • ระบบอุณหภูมิคงที่ ลมร้อนสูงสุดอยู่ที่ 57 องศา เท่านั้น

4. ไดร์เป่าผม Xiaomi รุ่น ShowSee A5 1800W 

ที่จะช่วยมอบประสบการณ์ใหม่ให้สาวๆเป่าผมได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้นมาพร้อมกับบรรจุไอออนลบ  20 ล้านต่อลูกบาศก์เซนติเมตร ทำให้ผมไม่แห้งเสีย ลดโอกาสการหลุดร่วงลงได้มากเลยทีเดียว แถม Xiaomi Smart Dryer ยังมีกำลังไฟสูงมาพร้อมกับเต้าเสียบแม่เหล็กที่จะช่วยให้คุณควบคุมแรงลมได้ดีมากยิ่งขึ้น 

คุณลักษณะ

  • น้ำหนัก 511 กรัม 
  • กำลังไฟ 1800 วัตต์  
  • ขนาด 120 x 76 x 245 เซนติเมตร  
  • สีแดงและสีเขียว
  • ระดับความร้อน 55 องศา
4. ไดร์เป่าผม เซียวมี รุ่น ShowSee A5 1800W

ภาพ : RoitBee Mi MALL

  • ราคา 528 บาท

ข้อดี

  • มาพร้อมกับเทคโนโลยีการกระจายความร้อน EHD ที่ไม่ทำให้ผมแห้งเสีย
  • น้ำหนักเบาดีไซน์สวยหรูพกพาสะดวก เสียงเบาไม่รบกวนคนรอบข้าง
  • ลมแรงสูงถึงประมาณ 7 เมตรต่อวินาที ช่วยให้ผมแห้งไวมากยิ่งขึ้น

ข้อเสีย

  • Xiaomi Hair Dryer มาในโทนสีเขียว แดง อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความมินิมอล
  • หัวไดร์ขนาดใหญ่ ทำให้พกพาได้ยากมากขึ้น
  • มีน้ำหนักรวมหัวไดร์อยู่ที่ 511 กรัม หนักกว่ารุ่น

5. ไดร์เป่าผม Xiaomi 1800W รุ่น ShowSee A2 Portable Anion Hair Dryer

โดยรุ่นนี้เป็นน้ำไอออนลบที่มีความเข้มข้นสูงเวลาใช้จึงช่วยทำให้ผมมีความชุ่มชื้น ไม่ชี้ฟูแห้งเสีย จัดแต่งทรงผมง่าย Xiaomi Smart Dryer มาพร้อมกับพลังไฟสูงถึง 1,800 วัตต์ ที่ให้ความเร็วลมได้มากยิ่งขึ้นมี 6 ใบพัดกระจายลมได้อย่างทั่วถึงช่วยให้ผมแห้งไวมากยิ่งขึ้น

คุณลักษณะ

  • น้ำหนัก 450 กรัม 
  • กำลังไฟ 1800 วัตต์  
  • ขนาด 163 x 76 x 245 เซนติเมตร  
  • สีดำ
  • ระดับความร้อน 57 องศา  
5. ไดร์เป่าผม 1800W รุ่น ShowSee A2 Portable Anion Hair Dryer

ภาพ : SHOWSEE.TH

  • ราคา 365 บาท

ข้อดี

  • หลังใช้ ไดร์เป่าผม Xiaomi ช่วยให้ผมเรียบจัดทรงสวย ไม่ชี้ฟู เพราะเป็นเทคโนโลยีไอออนลบเข้มข้นสูง
  • มีพลังงานสูงถึง 1,800 วัตต์ คุณภาพมอเตอร์ดีให้ความเร็วลมแรง 7.4 เมตร ต่อ วินาที
  • มี 6 ใบพัดช่วยเป่าผมให้แห้งไวเร็วมากยิ่งขึ้นผมสั้นใช้เวลาเพียงภายใน 3 นาทีเท่านั้น สำหรับผมยาวใช้เวลาประมาณ 10 นาที

ข้อเสีย

  • สีไดร์เป่าผม Xiaomi Smart Dryer รุ่นนี้ไม่มีความหลากหลายให้เลือก ถูกออกแบบมาให้มีเพียงแค่สีดำเท่านั้น
  • ลมร้อน ไม่เหมาะสำหรับคนหนังศีรษะแห้ง
  • พับเก็บไม่ได้ ส่งผลให้พกพายากมากขึ้น

*โปรดทราบ ข้อมูลราคาที่แสดงข้างต้นอาจจะเปลี่ยนแปลงในอนาคต เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสินค้าและราคา *

ข้อดีและข้อเสีย Xiaomi Hair Dryer

ข้อดี

  • เป็นเครื่องเป่าผมที่มีดีไซน์สวยงามทันสมัย ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์แก่การใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
  • แต่ละรุ่นนั้นมาพร้อมกับกระแสลมไอออนลบที่ช่วยลดไฟฟ้าสถิต ยังช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมไม่ทำให้ผมแห้งเสีย หรือชี้ฟูง่าย
  • เป็นระบบสลับที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทั้งลมร้อนและลมเย็น แถมยังมาพร้อมกับระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะช่วยให้การใช้งานนั้นง่ายมากยิ่งขึ้น
  • ลมแรง กระจายลมได้กว้างทั่วศีรษะ ช่วยเป่าผมให้แห้งไวมากยิ่งขึ้น ขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาได้สะดวก แถมยังมีระบบตัดไฟอัตโนมัติป้องกันความร้อนที่สูงเกินไปอีกด้วย

ข้อเสีย

  • มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ควบคุมอุณหภูมิแบบอัจฉริยะสูงสุดอยู่ที่ 57 องศาเซลเซียส อาจจะเป็นข้อจำกัดสำหรับคนที่ชื่นชอบการเป่าลมร้อน
  • บางรุ่นไม่สามารถพับเก็บได้ ทำให้การพกพานั้นเปลืองพื้นที่จัดเก็บมากยิ่งขึ้น
  • เป็นไดร์เป่าผมที่เหมาะสำหรับ Home use มากกว่าสำหรับ Professional Use
  • มีสีให้เลือกไม่หลากหลายส่วนใหญ่จะมาในโทนสไตล์มินิมอล

เปรียบเทียบไดร์เป่าผม Xiaomi กับแบรนด์อื่นๆ

Xiaomi Hair Dryer กับ Dyson Hair Dryer เปรียบเทียบคุณสมบัติและราคา

ความแตกต่างระหว่างเครื่องเป่าผม Xiaomi กับ Dyson คือ  Dyson เป็นแบรนด์ที่มีดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่วยดูแลเส้นผมและหนังศีรษะได้ดี มีหัวในการจัดแต่งทรงที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกทรงผม และที่สำคัญมีโหมดความร้อนให้เลือกสูงถึง 4 ระดับ พร้อมกับมอเตอร์ที่ทรงพลังให้ความเร็วลมสูงสุดถึง 110,000 rpm เลยทีเดียว แต่ราคาค่อนข้างสูงเริ่มต้นที่  17,000 บาท แตกต่างจาก Xiaomi ที่เริ่มต้นเพียงแค่ 350 บาทเท่านั้น

Xiaomi กับ Philips การเปรียบเทียบคุณสมบัติและราคา

เมื่อเปรียบเทียบเครื่องเป่าผม Philips กับ ไดร์เป่าผม Xiaomi พบว่า Philips มาพร้อมกับนวัตกรรม SenseIQ ที่จะช่วยตรวจจับความร้อนและควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับเส้นผมของเรา แถมยังเป็นไดร์เป่าผมที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผมได้สูงถึง 90% อีกด้วย ลดปัญหาผมแห้งเสียชี้ฟูได้ดี ปรับลมแรงได้ 2 ระดับแถมยังปรับความร้อนได้สูงถึง 3 ระดับอีกด้วย ราคาประมาณ 6,000 บาท 

คำแนะนำในการเลือกซื้อไดร์เป่าผม

  • ความสะดวกในการใช้งานและการพกพา : มีขนาดเล็กกะทัดรัดแต่มาพร้อมกับกำลังไฟสูง ช่วยกระจายลมได้ดี เป่าผมแห้งไวที่สำคัญน้ำหนักเบา ไม่เมื่อยมือ ด้ามจับสามารถพับเก็บได้ด้วยเพื่อสะดวกแก่การพกพาไปได้ทุกที่ทุกทริป

  • มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย : ไดร์เป่าผม Xiaomi มาพร้อมกับเทคโนโลยี Ionic Hair Dryer ที่จะช่วยปล่อยประจุลบไม่ทำร้ายหนังศีรษะและเส้นผม ยังคงความชุ่มชื้นไม่ทำให้ผมแห้งเสีย แถมยังช่วยให้จัดส่งง่ายมากยิ่งขึ้นเหมาะสำหรับคนที่ผมหนา หรือมีปัญหาผมหยิกชี้ฟูเป็นอย่างมาก

  • เลือกไดร์เป่าผมที่สามารถสลับลมร้อน ลมเย็นได้ : จะมีสวิตช์ให้คุณได้ปรับโหมดทั้งลมร้อนลมเย็นได้อย่างอิสระ โดยระบบลมเย็นจะช่วยถนอมหนังศีรษะและเส้นผม ไม่ให้แห้งเสียมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยเพิ่มความเงางามให้ผมนั้นดูนุ่มสลวยล็อกผมให้อยู่ทรงได้นาน มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

การเลือกไดร์เป่าผมตามประเภทผม

  • ผมหยิกหรือผมมีลอน (Curly or Wavy Hair) : แนะนำให้ใช้เครื่องเป่าผมที่มีหัวกระจายลม ซึ่งจะช่วยรักษาลอนผมและลอนตามธรรมชาติโดยไม่ทำให้ผมชี้ฟู

  • ผมหนา (Thick Hair) : ขอแนะนำไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟสูงเพื่อพลังลมที่ช่วยให้ผมหนาแห้งได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

  • ผมบางหรือผมเสีย (Thin or Damaged Hair) : แนะนำให้ใช้เครื่องเป่าผมที่มีความร้อนต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงผมเสียและเส้นผมที่บอบบาง

  • ผมตรง (Straight Hair) : เน้นหัวไดร์เป่าผมเพื่อจัดแต่งทรงที่ดีขึ้นและอยู่ทรง

บทสรุปส่งท้าย

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ ไดร์เป่าผม Xiaomi ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ มาพร้อมกับเครื่องปล่อยไอออนลบ ที่จะช่วยให้สาวๆไดร์ผมได้เรียบและไม่แห้งเสียชี้ฟู เส้นผมยังคงความชุ่มชื้น ช่วยลดโอกาสการเกิดไฟฟ้าสถิต ดีไซน์ทันสมัยมาในโทนสีมินิมอล ควบคุมด้วยระบบอัจฉริยะหากมีความร้อนสูงระบบจะตัดไฟอัตโนมัติ แถมยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีควบคุมอุณหภูมิที่คงที่ ช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไดร์เป่าผม Xiaomi

Vivo 5G มีรุ่นไหนบ้าง ?2024-02-18T09:45:22+00:00

Vivo ได้เปิดตัวโทรศัพท์ที่รองรับ 5G หลายรุ่น เช่น Vivo V series 5G, Vivo Y series 5G และรุ่นอื่นๆ ที่มาพร้อมกับความสามารถในการเชื่อมต่อแบบ 5G เพื่อความเร็วในการใช้งานที่สูงขึ้น

ไดร์เป่าผม Xiaomi ราคาเท่าไหร่ ?2024-02-15T16:05:55+00:00

ราคาของไดร์เป่าผม Xiaomi แตกต่างกันไปตามรุ่นและคุณสมบัติที่มี โดยทั่วไปราคาจะอยู่ในช่วงตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึงหลายพันบาท เพื่อให้เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการของผู้ซื้อ

ไดร์เป่าผม Xiaomi มีกี่รุ่น ?2024-02-15T16:04:58+00:00

Xiaomi มีหลายรุ่นของไดร์เป่าผม รวมถึงรุ่นยอดนิยมอย่าง H500, SOOCAS H3 และรุ่นอื่นๆ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานหลากหลายประเภท

ไดร์เป่าผม Xiaomi H500 รีวิว ?2024-02-15T16:04:01+00:00

รีวิวของ Xiaomi H500 มักจะชี้ไปที่ประสิทธิภาพการเป่าแห้งที่รวดเร็วและการใช้งานที่สะดวกสบาย รวมถึงคุณสมบัติเช่นการป้องกันความร้อนเกินและเทคโนโลยีลมเย็น

ไดร์เป่าผม Xiaomi มีอะไรใหม่ ?2024-02-18T09:56:56+00:00

Xiaomi อาจเปิดตัวรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล่าสุด รวมถึงการปรับปรุงในด้านประสิทธิภาพและการออกแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างดียิ่งขึ้น

ไดร์เป่าผม Xiaomi H500 คืออะไร ?2024-02-15T16:02:01+00:00

Xiaomi H500 เป็นหนึ่งในรุ่นไดร์เป่าผมยอดนิยมจาก Xiaomi ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีนวัตกรรมการเป่าแห้งผมด้วยลมร้อนและลมเย็น ช่วยให้ผมแห้งเร็วและลดการเสียดสี

ไดร์เป่าผม Xiaomi 1800w รีวิว ?2024-02-15T16:00:48+00:00

รุ่น 1800w จาก Xiaomi ได้รับการรีวิวว่ามีประสิทธิภาพการเป่าแห้งที่ดีเยี่ยม พร้อมด้วยการควบคุมอุณหภูมิและความเร็วลมที่หลากหลาย ทำให้เหมาะกับการใช้งานสำหรับทุกประเภทผม

ไดร์เป่าผม Xiaomi รีวิว ?2024-02-15T15:59:53+00:00

รีวิวโดยทั่วไปของไดร์เป่าผม Xiaomi มักจะเป็นบวก โดยเฉพาะรุ่น Xiaomi H500 ที่ได้รับคำชมเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการเป่าแห้งเร็วและการออกแบบที่ทันสมัย

ไดร์เป่าผม Xiaomi กี่วัตต์ ?2024-02-15T15:58:39+00:00

ไดร์เป่าผม Xiaomi มีหลายรุ่นด้วยกัน โดยทั่วไปจะมีกำลังวัตต์ตั้งแต่ 1800W ถึง 2000W เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานทั้งในบ้านและร้านเสริมสวย

ไดร์เป่าผม MI รุ่นไหนดี ?2024-02-15T15:56:49+00:00

รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสำหรับไดร์เป่าผม MI คือ Xiaomi H500 และ Xiaomi SOOCAS H3 ซึ่งทั้งคู่มีคุณสมบัติเด่นเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปและมีความทนทานสูง ควรเลือกตามความต้องการในการใช้งานและงบประมาณ

About the Author: Jantima Saengkaew

Go to Top